ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Adobe
Photoshop
ความหมาย
ความสำคัญของโปรแกรม Adobe Photoshop
โปรแกรม Adobe Photoshop หมายถึง โปรแกรมสร้างและตกแต่งภาพ
ส่วนใหญ่มีลักษณะการใช้งานที่มีเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกในการสร้างหรือวาดภาพหรือตกแต่งภาพที่คล้ายกัน
เช่น การแบ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วน ๆ สำหรับเป็นพื้นที่วาดภาพซึ่งสามารถเลื่อนดูภาพในส่วนที่ไม่ได้ปรากฏบนจอ
รายการเลือก กล่องเครื่องมือที่ประกอบด้วยสัญลักษ์ รูปเครื่องมือสำหรับใช้วาดรูป
เช่น รูปทรงพื้นฐานสำหรับวาดรูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม ดินสอให้วาดรูปโดยอิสระ แว่นขยายสำหรับใช้ย่อหรือขยายรูปออกมาตกแต่ง
ตัวอักษรสำหรับพิมพ์ข้อความลงในภาพซึ่งสามารถกำหนดรูปแบบอักษรหรือเทคนิคพิเศษต่าง
ๆ โปรแกรมที่นิยมใช้ ในการสร้างภาพ เช่น การทำ Retouching Image จากภาพเก่าให้เป็นภาพตามต้องการ การสร้างภาพขึ้นใหม่ การตกแต่ง
หรือการแก้ไขภาพ ซึ่งโปรแกรม Adobe Photoshop
สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับบุคคลที่สนใจสร้างภาพเพื่อใช้ในงานต่าง ๆ
ความสำคัญของโปรแกรม Adobe Photoshop
ความสามารถของ Adobe Photoshop
ความสามารถของ Adobe Photoshop
ความสามารถทางด้าน
Motion และ 3D
1.สามารถทำงานแบบ 3D Visualization และการทำพื้นผิวของงาน 3D
2. การตกแต่งสีกับภาพเคลื่อนไหว เช่น ไฟล์ Movie
3.สามารถใช้ Vanishing Point กับงาน 3D ได้
4.การทำ Motion Graphic และการทำงานกับ Video Layers
ความสามารถทางด้าน Image Analysis
1. สามารถใช้การจัดการข้อมูลกับมาตรวัตต่างๆ เช่น การคำนวณ พื้นที่ และการวัดระยะทาง
2.มีการบันทึกและ มีเครื่องหมายสามารถแสดงผลจำนวนนับได
3.รองรับการทำงาน DICOM และการวัดระยะทาง
4.รองรับการทำงาน MATLAB
5.สามารถนำภาพมาทำการ Stack Processing โดยนำภาพที่ถ่ายซ้ำๆ มาซ้อนกันเพื่อเลือกบางส่วนของแต่ละภาพมาเป็นภาพเดียวได้
1.สามารถทำงานแบบ 3D Visualization และการทำพื้นผิวของงาน 3D
2. การตกแต่งสีกับภาพเคลื่อนไหว เช่น ไฟล์ Movie
3.สามารถใช้ Vanishing Point กับงาน 3D ได้
4.การทำ Motion Graphic และการทำงานกับ Video Layers
ความสามารถทางด้าน Image Analysis
1. สามารถใช้การจัดการข้อมูลกับมาตรวัตต่างๆ เช่น การคำนวณ พื้นที่ และการวัดระยะทาง
2.มีการบันทึกและ มีเครื่องหมายสามารถแสดงผลจำนวนนับได
3.รองรับการทำงาน DICOM และการวัดระยะทาง
4.รองรับการทำงาน MATLAB
5.สามารถนำภาพมาทำการ Stack Processing โดยนำภาพที่ถ่ายซ้ำๆ มาซ้อนกันเพื่อเลือกบางส่วนของแต่ละภาพมาเป็นภาพเดียวได้
คุณสมบัติของ Photoshop
1.
แก้ไขภาพถ่ายที่บกพร่องหรือมีตำหนิ เช่น ปรับสีที่เพี้ยน
ปรับแสงเงาที่สว่างหรือมืดเกินไป ลบแสงแฟลชที่สะท้อนในดวงตา
2. ตกแต่งภาพ เช่น ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป ลบองค์ประกอบที่รกรุงรัง ปรับภาพให้เบลอหรือคมชัด ปรับผิวกายนางแบบให้ขาวนวลหรือขจัดไฝฝ้าต่างๆ ขจัดเม็ดสีที่เกิดในภาพที่แสกนในสิ่งพิมพ์
3. ดัดแปลงภาพเช่น ทำภาพใหม่ให้กลายเป็นภาพสีซีเปียแบบโบราณหรือแปลงภาพเก่าๆ ที่เป็นขาวดำให้กลายเป็นภาพสี เปลี่ยนภาพคนให้อ้วนขึ้น-ผอมลงหรือเด็ก-แก่กว่าที่เป็นจริง
4. ตัดต่อภาพ เช่นย้ายตัวคนจากภาพถ่ายชายทะเลไปยืนบนภูเขาหิมะ
5. ใสเอ็ฟเฟ็คพิเศษให้ภาพเช่นทำให้เหมือนการมองผ่านกระจกชนิดและลายต่างๆ หรือเหมือนเงาสะท้อนในน้ำ เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดูคล้ายภาพวาดด้วยเครื่องมือหลากหลายชนิด ใส่ประกายแสงเงาหรือเงาให้วัตถุ
6. สร้างภาพกราฟิกซึ่งผสมผสานภาพถ่าย ข้อความและภาพวัตถุหรือเอ็ฟเฟ็คพิเศษที่สร้างขึ้นใน Photoshop CS3 เพื่อใช้ในงานผลิตสื่อโฆษณาทำปกหนังสือหรือนิตยสาร หรือใช้ตกแต่งเว็บ
7. สร้างองค์ประกอบที่ใช้ในเว็บ เช่นการตัดแบ่งภาพขนาดใหญ่ ออกเป็นส่วนๆ การแบ่งพื้นที่ภาพเพื่อสร้างไฮเปอร์ลิงค์เฉพาะส่วน การสร้างภาพเคลื่อนไหวและการสร้างปุ่มที่เปลี่ยนสถานะตามเมาส์
2. ตกแต่งภาพ เช่น ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป ลบองค์ประกอบที่รกรุงรัง ปรับภาพให้เบลอหรือคมชัด ปรับผิวกายนางแบบให้ขาวนวลหรือขจัดไฝฝ้าต่างๆ ขจัดเม็ดสีที่เกิดในภาพที่แสกนในสิ่งพิมพ์
3. ดัดแปลงภาพเช่น ทำภาพใหม่ให้กลายเป็นภาพสีซีเปียแบบโบราณหรือแปลงภาพเก่าๆ ที่เป็นขาวดำให้กลายเป็นภาพสี เปลี่ยนภาพคนให้อ้วนขึ้น-ผอมลงหรือเด็ก-แก่กว่าที่เป็นจริง
4. ตัดต่อภาพ เช่นย้ายตัวคนจากภาพถ่ายชายทะเลไปยืนบนภูเขาหิมะ
5. ใสเอ็ฟเฟ็คพิเศษให้ภาพเช่นทำให้เหมือนการมองผ่านกระจกชนิดและลายต่างๆ หรือเหมือนเงาสะท้อนในน้ำ เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดูคล้ายภาพวาดด้วยเครื่องมือหลากหลายชนิด ใส่ประกายแสงเงาหรือเงาให้วัตถุ
6. สร้างภาพกราฟิกซึ่งผสมผสานภาพถ่าย ข้อความและภาพวัตถุหรือเอ็ฟเฟ็คพิเศษที่สร้างขึ้นใน Photoshop CS3 เพื่อใช้ในงานผลิตสื่อโฆษณาทำปกหนังสือหรือนิตยสาร หรือใช้ตกแต่งเว็บ
7. สร้างองค์ประกอบที่ใช้ในเว็บ เช่นการตัดแบ่งภาพขนาดใหญ่ ออกเป็นส่วนๆ การแบ่งพื้นที่ภาพเพื่อสร้างไฮเปอร์ลิงค์เฉพาะส่วน การสร้างภาพเคลื่อนไหวและการสร้างปุ่มที่เปลี่ยนสถานะตามเมาส์
ชนิดของกราฟิกไฟล์ประเภท
Raster
คอมพิวเตอร์ของเรานั้น คอมพิวเตอร์จะมีการประมวลผลภาพอยู่ด้วยกัน
2 รูปแบบ คือ
1.
การประมวลผลแบบ Raster หรือ Bitmap
2. การประมวลผลแบบ Vector
1.1 การประมวลผลแบบ Raster
2. การประมวลผลแบบ Vector
1.1 การประมวลผลแบบ Raster
การประมวลผลแบบ Raster หรือแบบ บิตแมป(Bitmap)
หรือเรียกว่าเป็นภาพแบบ Resolution Dependent โดยหลักการทำงาน คือ จะเป็นการประมวลแบบอาศัยการอ่านค่าสีในแต่ละพิกเซล
ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Bitmap ซึ่งจะเก็บค่าของข้อมูลเป็นค่า
0 และ 1 และในแต่ละพิกเซลจะมีการเก็บค่าสีที่เจาะจงในแต่ละตำแหน่ง
ลักษณะสำคัญของภาพประเภทนี้ คือ จะประกอบขึ้นด้วยจุดสีต่างๆที่มีจำนวนคงที่ตายตัว
ตามการสร้างภาพที่มีความละเอียดแตกต่างกันไป ภาพแบบ Bitmap นี้ มีข้อดี คือ เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการระบายสี สร้างสี
หรือกำหนดสีที่ต้องละเอียดและสวยงามได้ง่าย ข้อจำกัดคือ เมื่อมีพิกเซลจำนวนคงที่
นำภาพมาขยายให้ใหญ่ขึ้น ความละเอียดก็จะลดลง มองเห็นภาพเป็นแบบจุด
และถ้าเพิ่มความละเอียดให้แก่ภาพ จะทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ และเปลืองเนื้อที่หน่วยความจำมาก
ไฟล์ของรูปภาพที่เกิดจากการประมวลผลแบบ Raster คือ ไฟล์พวกที่มี นามสกุล เป็น .BMP .PCX .TIF .JPG .GIF .MSP .PNG
.PCT โดยโปรแกรมที่ใช้จัดการกับภาพประเภทนี้ คือ
โปรแกรมประเภทจัดการภาพ ตกแต่งภาพ ซึ่งปัจจุบันนี้มีโปรแกรมมากมายให้เราได้ใช้กัน
เช่น Photoscape,Paintbrush,Photoshop,Photostyler และอีกมากมาย
1.2. การประมวลผลแบบ Vector
ภาพแบบเวกเตอร์ หรือ Object-Oriented Graphics หรือ เรียกว่า เป็นรูปภาพ Resolution-Independent เป็นภาพที่มีลักษณะของการสร้างจากคอมพิวเตอร์ที่มีการสร้างให้แต่ละส่วนของภาพเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง รูปทรง หรือ ส่วนโค้ง โดยอ้างอิงตามความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรืออาศัยการคำนวณทางคณิตศาสตร์ โดยมีสีและตำแหน่งของสีที่แน่นอน ฉะนั้นไม่ว่าจะมีการเคลื่อนย้าย หรือย่อขยายขนาดของภาพ ก็จะไม่เสียรูปทรง และความละเอียดของภาพจะไม่ลดลง จึงทำให้ภาพยังคงชัดเจนเหมือนเดิม แม้ขนาดของภาพจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงก็ตาม แต่มีข้อเสียที่ไม่สามารถใช้เอฟเฟคในการปรับแต่งภาพได้เหมือนกับภาพแบบ Raster
การประมวลผลภาพแบบ Vector ได้แก่ภาพที่มี นามสกุล .AI, .DRW, .CDR , .EPS, .PS ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการวาดภาพก็มีมากมายหลายโปรแกรม เช่น Illustrator, CorelDraw และ ภาพ .WMF ซึ่งเป็นภาพคลิปอาร์ตในโปรแกรม Microsoft Word และภาพ .DWG ในโปรแกรมการออกแบบ AutoCAD เป็นต้น
1.2. การประมวลผลแบบ Vector
ภาพแบบเวกเตอร์ หรือ Object-Oriented Graphics หรือ เรียกว่า เป็นรูปภาพ Resolution-Independent เป็นภาพที่มีลักษณะของการสร้างจากคอมพิวเตอร์ที่มีการสร้างให้แต่ละส่วนของภาพเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง รูปทรง หรือ ส่วนโค้ง โดยอ้างอิงตามความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรืออาศัยการคำนวณทางคณิตศาสตร์ โดยมีสีและตำแหน่งของสีที่แน่นอน ฉะนั้นไม่ว่าจะมีการเคลื่อนย้าย หรือย่อขยายขนาดของภาพ ก็จะไม่เสียรูปทรง และความละเอียดของภาพจะไม่ลดลง จึงทำให้ภาพยังคงชัดเจนเหมือนเดิม แม้ขนาดของภาพจะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงก็ตาม แต่มีข้อเสียที่ไม่สามารถใช้เอฟเฟคในการปรับแต่งภาพได้เหมือนกับภาพแบบ Raster
การประมวลผลภาพแบบ Vector ได้แก่ภาพที่มี นามสกุล .AI, .DRW, .CDR , .EPS, .PS ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการวาดภาพก็มีมากมายหลายโปรแกรม เช่น Illustrator, CorelDraw และ ภาพ .WMF ซึ่งเป็นภาพคลิปอาร์ตในโปรแกรม Microsoft Word และภาพ .DWG ในโปรแกรมการออกแบบ AutoCAD เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น